หากพูดถึง “บ้านเอื้ออาทร” คือโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองสำหรับผู้มีรายได้น้อยก็ไม่ผิด และยังเรียกได้ว่าเป็นการบุกเบิกโครงการบ้านเอื้ออาทรของรัฐบาลที่ต่อยอดมาสู่อีกหลายโครงการในปัจจุบัน วันนี้เราจะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับโครงการบ้านเอื้ออาทร บ้านเดี่ยว 2564 ให้มากขึ้น แล้วมาดูกันว่าอยากเป็นเจ้าของครอบครองกรรมสิทธิ์บ้านเอื้ออาทรต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอะไรบ้าง
จุดเริ่มต้นของโครงการบ้านเอื้ออาทร
โครงการบ้านเอื้ออาทร บ้านเดี่ยว 2564 เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมของแหล่งชุมชนในเมืองที่เริ่มกระจายตัวไปทั่วกรุงเทพมหานคร ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง การเคหะแห่งชาติมีหน้าที่จัดหาที่อยู่อาศัยมาตรฐานให้กับประชาชน ได้สร้างคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมาตั้งแต่ปี 2546 ในเมืองใหญ่และเมืองรองในภูมิภาคต่าง ๆ
เป้าหมายหลักของโครงการบ้านเอื้ออาทรคือการจัดทำแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยของประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่เคยอาศัยอยู่ในชุมชนที่ทรุดโทรมให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่เคยอาศัยอยู่ในชุมชนที่ทรุดโทรมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในคุณภาพชีวิตทุกระดับของสังคม
ในระยะแรกเจ้าของบ้านเอื้ออาทรจำกัดครัวเรือนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน แต่ต่อมาได้ปรับเป็นรายได้ครัวเรือนละไม่เกิน 40,000 บาท โดยรัฐบาลช่วยอุดหนุนให้บางส่วนเพื่อไม่ให้การผ่อนเงินค่าบ้านหรือค่าห้องในแต่ละเดือนไม่สูงเกินไป
ข้อดี-ข้อเสียของบ้านเอื้ออาทร
ปัจจุบันแม้โครงการบ้านเอื้ออาทรจะไม่มีการก่อสร้างใหม่แต่ก็ยังมียูนิตว่างที่ประชาชนให้ความสนใจและมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับการเคหะแห่งชาติ คุณสามารถเช่าหนึ่งในยูนิตเหล่านี้ได้ รวมถึงบ้านมือสองหลายหลังที่มีขายหรือให้เช่า หากคุณสนใจ คุณสามารถพิจารณาข้อดีและข้อเสียของบ้านเอื้ออาทรกันก่อน ดังนี้
ข้อดี
- บ้านหรืออพาร์ทเม้นท์ราคาย่อมเยาตั้งแต่ 3-8 แสนบาท
- โครงการมีอยู่ทั่วประเทศ นั่นทำให้สามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการได้
- จองหรือดาวน์น้อยก็เป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ
- ค่าผ่อนรายเดือนถูกกว่าเช่า
- การเคหะจะเป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งแตกต่างจากการซื้อบ้านในโครงการส่วนตัวที่ผู้ซื้อจะต้องขอสินเชื่อและหาผู้ค้ำประกันด้วยตนเอง
ข้อเสีย
- คุณภาพของวัสดุก่อสร้างด้อยกว่าโครงการของเอกชน
- แม้ว่าทำเลจะมีให้เลือกมากมายแต่ก็มักจะห่างไกลจากความเจริญหรือการคมนาคมไม่สะดวก
- แต่ละโครงการมีจำนวนยูนิตมาก ความหนาแน่นของการอยู่อาศัยมากเกินไปและสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอต่อความต้องการ
- ขาดการจัดการที่ดีทำให้ชุมชนเสื่อมโทรมหรือด้อยคุณภาพ
อยากเป็นเจ้าของโครงการบ้านเอื้ออาทร บ้านเดี่ยว 2564 ต้องทำอย่างไร ?
- บ้านเอื้ออาทรเป็นโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยเฉพาะกลุ่มที่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ เป็นคนไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป ไม่ติด Black List หรือเครดิตบูโรจากสถาบันการเงิน มีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อครอบครัวต่อเดือน
- จองบ้านเอื้ออาทรได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ โดยเลือกโครงการหรือทำเลที่สนใจก่อนแล้วเลือกยูนิตที่สนใจ พร้อมกรอกรายละเอียดการจอง นำเอกสารจอง Online ติดต่อเจ้าหน้าที่บ้านพักภายใน 7 วัน เพื่อดำเนินการซื้อหรือเช่า
- สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ เลขที่ 905 ถนนนวมินทร์ ซอย 10 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 หรือติดต่อสำนักงานขายหรือสำนักงานเคหะจังหวัดที่สนใจหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร 1615
- กรณีเช่าซื้อผู้ซื้อต้องทำเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคาร หากกู้ผ่านก็เตรียมนัดวันยื่นเอกสารสิทธิการเช่าซื้อได้เลย ในกรณีของการเช่าก็ยิ่งง่าย เพราะแค่นัดเซ็นสัญญากับเจ้าหน้าที่การเคหะก็รับกุญแจได้เลย
ข้อควรรู้ก่อนซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทร
ความพิเศษของการเป็นเจ้าของบ้านเอื้ออาทรนอกจากจะต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยแล้ว อีกทั้งยังมีเงื่อนไขการซื้อที่แตกต่างจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เนื่องจากเป็นโครงการที่รัฐอุดหนุนจึงต้องมีการจัดการอย่างรัดกุม ในฐานะผู้ซื้อจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูล เพื่อรักษาสิทธิ์จนถึงวันที่คุณจะได้เป็นเจ้าของบ้านที่สมบูรณ์แบบ
บ้านเอื้ออาทรกับสัญญาเช่าซื้อ
ข้อควรรู้ประการหนึ่งสำหรับบ้านเอื้ออาทรกับ ‘สัญญาเช่าซื้อ’ ซึ่งเป็นลักษณะของสัญญาที่การเคหะแห่งชาติกำหนด ซึ่งคำว่า ‘เช่าซื้อ’ หมายความว่า โครงการบ้านจัดสรรเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โครงการแล้วปล่อยให้ประชาชนเช่า และให้คำมั่นว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เช่า เมื่อผู้เช่าได้ใช้เงินครบตามจำนวนเท่านั้นเท่านี้ โดยทั่วไปกำหนดระยะเวลาการเช่าไว้ที่ 5 ปี หรืออีกนัยหนึ่งให้กรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยนั้นตกเป็นของการเคหะแห่งชาติไปจนกว่าสัญญาเช่าจะครบ 5 ปี (ชำระเต็มจำนวนตามที่กำหนดหรือชำระเต็มจำนวนเป็นเงินสด) ถึง สามารถโอนกรรมสิทธิ์ในกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อได้
ในระยะเวลา 5 ปีดังกล่าว มีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าผู้เช่าไม่สามารถโอนสิทธิ์การเช่าซื้อให้แก่ผู้ใดได้ ตลอดจนห้ามใช้ห้องชุดหรือบ้านที่ทำสัญญากับการเคหะฯ ให้ผู้อื่นอยู่อาศัยหรือให้เช่าช่วงโดยเด็ดขาด เพราะหากมีการตรวจสอบจะทำให้ผู้เช่าถูกบอกเลิกสัญญา และถูกยึดเงินที่ชำระไว้ทั้งหมด
การผิดนัด = การผิดสัญญา
ภาระผูกพันในการซื้อบ้านเอื้ออาทรกำหนดไว้ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการผิดนัดที่อาจนำไปสู่การบอกเลิกสัญญา แบ่งเป็นช่วงสำคัญ 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงชำระค่าเช่า ต้องชำระเต็มจำนวนภายในระยะเวลาที่กำหนด หากขาดชำระเกิน 90 วัน ถือว่าผิดสัญญาและทำให้สัญญาสิ้นสุดลงทันทีโดยการเคหะฯ ไม่จำเป็นต้องบอกเลิกสัญญาแต่อย่างใด และคุณมีสิทธิ์ริบเงินมัดจำทั้งหมดที่จ่ายไปแล้ว
หลังจากผ่านไป 5 ปี อีกช่วงเวลาหนึ่งคือการโอนกรรมสิทธิ์ การเคหะแห่งชาติจะโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดหรือบ้านเอื้ออาทรให้แก่ผู้เช่า ไปจดทะเบียนจำนองกับธนาคาร กู้เงินส่วนที่เหลือต่อไป หากไม่ได้รับการโอนเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดถือว่าผิดสัญญานั่นเอง